สำนักงานวัชรธรรมทนายความและธุรกิจที่ดิน กฏหมายที่ดิน,กฏหมายอาคารชุด

       

   สำนักงานวัชรธรรมทนายความและธุรกิจที่ดิน  

สำนักงานวัชรธรรมทนายความฯ ยินดีให้บริการท่านด้วยประสบการณ์ในวิชาชีพ ให้คำปรึกษาทำโครงการบ้านจัดสรร คอนโด ขาย สร้าง โอน ครบวงจร                                                                                                                                                                                                                                                                    
 

   

    





 สถิติวันนี้ 4 คน
 สถิติเมื่อวาน 81 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
4548 คน
26264 คน
2737792 คน
เริ่มเมื่อ 2008-11-20


คำกล่าวนำสมุดเยี่ยมชม
คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สมุดเยี่ยมชม


การซื้อที่ดิน ส.ค.1 ที่เป็นที่ดินแปลงใหญ่
ผมกำลังจะซื้อที่ดิน เป็นที่ดิน ส.ค. 1 แปลงใหญ่ประมาณ 50 ไร่แต่ผู้ขายจะแบ่งขายให้ปนะมาณ 5 ไร่ การซื้อขายจะต้องดำเนินการอย่างไร ที่จะเป็นการบอกว่าที่ดินที่ตกลงซื้อขายกัน เป็นที่ดินที่ต้องการจริงๆ เมื่อซื้อแล้วจะสามารถนำไปออกโฉนดได้หรือไม่ หรือจะต้องนำไปออกโฉนดก่อนแล้วถึงจะแบ่งแยกที่หลังครับ
โดย ปาลิไลยก์ ไทยกล้า (ip58.11.206.94) อี-เมล์ ปาลิไลยก์ ไทยกล้า (ip58.11.206.94) เบอร์โทรศัพท์. ปาลิไลยก์ ไทยกล้า IP: xxx [ 2015-07-01 ]

คำตอบจาก Webmaster
ควรให้ผู้ขายไปดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะการขอออกโฉนดหลังวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 จะต้องมีคำพิพากษาของศาลมาแนบเรื่องด้วย ตามประกาศของกรมที่ดินข้างท้าย

เรื่อง กรมที่ดิน ประกาศยกเลิก ส.ค. 1 ให้เวลา 2 ปี
กรมที่ดิน แจ้งให้ผู้ที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน(ส.ค.1) รีบนำหลักฐานดังกล่าว ไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว และประสงค์จะยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์จะต้องมีคำพิพากษามาแสดงด้วย
นายชัยฤกษ์ ดิษฐ์อำนาจ อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า จากการที่มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 มาตรา 8 บัญญัติให้ผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ (1 ธันวาคม พ.ศ. 2497) โดยมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) และยังมิได้ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ให้รีบนำหลักฐาน ส.ค. 1 มายื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในระยะเวลาสองปี นับตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553) หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้ได้ ก็ต่อเมื่อศาลยุติธรรมได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุด ว่าผู้นั้นเป็นผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้
1.นับแต่วันที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดินฉบับนี้ใช้บังคับ คือ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 จนครบกำหนดเวลาสองปี คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ผู้ที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินและมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) อยู่แล้ว สามารถนำหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1) ดังกล่าว มายื่นคำขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ โดยไม่ต้องนำคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดว่าเป็นผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
2. เมื่อพ้นกำหนดสองปีดังกล่าว คือ ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป ผู้ที่มายื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ โดยอาศัยหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน(ส.ค.1) ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะต้องนำคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดว่าเป็นผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน โดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย
กรมที่ดิน จึงขอให้ผู้ที่มีหลักฐาน ส.ค. 1 และต้องการขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง การทำประโยชน์รีบไปติดต่อดำเนินการ ณ สำนักงานที่ดินท้องที่ ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ หรือ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานที่ดินนั้นเช่นเดียวกัน

*****************************
โดยคุณ วัชรพล วัชรตระกูล [ 2015-07-02 ] ตอบ 1246
คำเตือนเกี่ยวกับการใช้สมุดเยี่ยมชม


Copyright (c) 2008 by Vatchara Thamma Land Law Office Company Limited.