ข้อ 1.ในกรณีที่ผู้จัดสรรที่ดินรายใดมีความประสงค์ จะให้มีการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร หรือนิติบุคคลตามกฎหมายอื่น ผู้จัดสรรที่ดิน จะต้องจัดพื้นที่ให้เป็นที่ตั้งสำนักงานของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร หรือนิติบุคคลตามกฎหมายอื่น อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
(1) ที่ดินเปล่าต้องจัดให้มีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 20 ตารางวา และมีความกว้างไม่น้อยกว่า 8.00 เมตร ความยาวไม่น้อยกว่า 10.00 เมตร เมตร เว้นแต่ข้อบัญญัติของท้องถิ่นใดกำหนดไว้สูงกว่า ก็ให้เป็นไปตามข้อบัญญัติของท้องถิ่นนั้น โดยตำแหน่งที่ดินให้มีเขตติดต่อกับสาธารณูปโภคอื่น ๆ เช่น ถนน สวน สนามเด็กเล่น สนามกีฬา พื้นที่ส่วนกลางสำหรับการจัดจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรหรือการสันทนาการ ที่จอดรถส่วนกลาง ศูนย์ฝึกอบรมพนักงาน ห้องอาหารสำหรับพนักงาน สถานพยาบาลเบื้องต้นและหรือสาธารณูโภค อื่นที่ใช้ประโยชน์ลักษณะเดียวกัน (2) ที่ดินพร้อมอาคาร ต้องมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 16 ตารางวา และมีความกว้างไม่น้อยกว่า 4.00 เมตร (3) พื้นที่ส่วนอื่นซึ่งผู้จัดสรรที่ดินได้จัดไว้ เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรหรือนิติบุคคลตามกฎหมายอื่นแล้ว เช่น สำนักงาน สโมสร เป็นต้น ต้องจัดให้มีพื้นที่ใช้สอยสำหรับสำนักงานของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรหรือนิติบุคคลตามกฎหมายอื่นในอาคารดังกล่าวไม่น้อยกว่า 64 ตารางเมตร อาคารดังกล่าวจะต้องอยู่บนที่ดิน แปลงบริการสาธารณะในโครงการจัดสรรที่ดินและจะเก็บค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรหรือนิติบุคคลตามกฎหมายอื่นไม่ได้ ทั้งนี้ไม่นับรวมถึงค่าใช้จ่าย สาธารณูปโภคสิ้นเปลือง
คำถามที่ 1 คำว่า "พื้นที่ส่วนอื่น"ในแบบที่ (3) ต่างจากที่ดินแบบที่ (2) อย่างไรคะ
คำถามที่ 2 ในกรณีที่เลือกแบบที่ (2) ตัวอาคารต้องมีพื้นที่เท่าใด ต้องไม่น้อยกว่า 64 ตร.ม.ตามที่ (3) หรือไม่
คำถามที่ 3 ถ้าอาคารต้องเท่ากับ 64 ตร.ม. แปลว่า ขนาดที่ดินตามแบบที่ (2) สร้างได้เต็มพื้นที่ดินพอดี (16 ตร.ว=64 ตร.ม.) เป็นเช่นนั้นขออนุญาตได้ใช่หรือไม่ ไม่ติดกฎหมายระยะร่นอาคารหรืออย่างไร (ที่ดินที่เตรียมไว้ให้สนง.นิติฯ ติดส่วนหย่อมและถนนภายในโครงการ ไม่มีด้านใดติดรั้วบ้านสมาชิก)
คำถามที่ 4 ขอสอบถามเพื่อความเข้าใจว่า
ในระหว่างที่ยังไม่มีการจัดตั้ง นิติฯหมู่บ้าน ทางโครงการดูแลสาธารณูปโภคอยู่ ส่วนค่าบริการสาธารณะมีการเก็บล่วงหน้ารายปีตอนทำสัญญา ตัวอย่างเช่น อาจเป็น 10 บาท/ตร.ว/เดือน แต่เมื่อจัดตั้งนิติฯ และโอนสาธารณูปโภคให้แล้ว ค่าใช้จ่ายก็จะรวมกันทั้งค่าดูแลสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะ ซึ่งรวมถึงค่าบริหาร-ค่าใช้จ่ายสนง.นิติฯ ซึ่งโครงการสร้างไว้ให้ อย่างนี้ก็มีผลทำให้ค่าส่วนกลางที่จัดเก็บไว้อัตราเดิมไม่พอเพียงอย่างแน่นอน เป็นภาระหน้าที่ของคณะกรรมการหมู่บ้าน ที่จะต้องไปสรุปว่าจะเป็นอัตราเท่าใด
อย่างนี้เข้าใจถูกต้องหรือไม่
|