ขอขอบพระคุณอาจารย์มากที่ได้ตอบคำถามลำดับที่ 326 แต่ยังมีข้อสงสัยที่ขอรบกวนถามต่อค่ะ
คำตอบจากลำดับที่ 326
๑. ในการจัดทำแผนผังโครงการจัดสรรจะทำควบคู่ไปกับการขอออกแบบปักเสาพาดสายไฟฟ้า ซึ่งในกรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการฯ ต้องผ่านการตรวจสอบแล้ว ในขั้นตอนการตรวจสอบแผนผังโครงการ หากเป็นการขออนุญาตตามกฎหมายจัดสรรเก่า (ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๒๘๖) สามารถติดตั้งได้ แต่หากขออนุญาตจัดสรรใหม่ (พรบ.จัดสรรที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๓) จะไม่ผ่านการพิจารณา
คำอธิบายเพิ่มค่ะ
เสาไฟฟ้าที่พาดผ่านไม่ได้เป็นเสาที่ปักใหม่ที่ส่งไฟเข้าหมู่บ้าน แต่เป็นเสาขนาดใหญ่ที่เป็นเสาเหล็กส่งไฟฟ้าแรงสูงเข้าใปโรงไฟฟ้าในเมือง โดยฐานของเสาส่งไฟฟ้านี้อยู่กลางที่สวนสาธารณะพอดี โดยมีป้ายเดือนอันตรายและห้ามปลูกต้นไม้ใต้เสาไฟฟ้านี้ด้วย สมาชิกลูกบ้านไม่มีใครกล้าไปใช้บริการสวนที่โครงการจัดไว้นี้ได้ เนื่องจากกลัวอันตรายจากไฟฟ้าแรงสูงด้านบน พื้นที่สวนประมาณ 200 กว่า ตรว.นิดหน่อย จึงไม่มีพื้นที่เหลือพอที่จะใช้ด้วยความปลอดภัยได้ เพราะตัวฐานเสาไฟฟ้าก็เกือบเต็มพื้นที่สวนทั้งหมด
สำนักงานที่ดินที่ ปทุมธานี จดทะเบียนจัดสรรเมื่อปี 2548 ซึ่งน่าจะใช้ พรบ.จัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 แล้ว แบบนี้คิดว่าคณะกรรมการผ่านโดยไม่ได้ตรวจสอบหรือไม่ และความผิดนี่เป็นของโครงการหรือคณะกรรมการหากมีการฟ้องร้องต่อศาล
๒. ควรทำเรื่องปรึกษาไปยังการไฟฟ้าถึงความปลอดภัยและจัดหาที่ตั้งที่เหมาะสม รวมถึงประสานงานกับเจ้าของโครงการในการขอย้ายที่ตั้ง
การไฟฟ้าคงไม่เกี่ยวข้องหรอกค่ะ เพราะเสาไฟฟ้านี้เป็นเสาขนาดใหญ่ที่มีมาก่อนสร้างหมู่บ้านแล้ว และก็เป็นเสาที่ส่งไฟฟ้าแรงสูงเข้าโรงไฟฟ้า ไม่ได้เป็นเสาเล็ก ๆ ที่สามารถย้ายได้ ตอนนี้ลูกบ้านได้เจรจาขอให้โครงการจัดสรรพื้นที่สวนสาธารณะให้ใหม่ โครงการยินยอมชดเชยให้แต่ได้พื้นที่ประมาณ 100 ตรว. และไม่ได้ยกกรรมสิทธิ์ให้เป็นของหมู่บ้านด้วย อนาคตโครงการสามารถนำไปทำอย่างอื่นได้ จึงทำให้การเจรจาไม่ยุติทั้งสองฝ่าย
จึงอยากเรียนถามว่าเราควรดำเนินการฟ้องต่อศาลผู้บริโภคหรือเปล่าคะ แล้วกรณีเช่นนี้ถ้าสู้กันต่อไปจะลงไปถึงคณะกรรมการจัดสรรด้วยหรือเปล่า เพราคิดว่าละเลยหน้าทีปล่อยให้มีการจดทะเบียนที่ไม่ถูกต้องในส่วนของสวนสาธารณะที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมนะค่ะ
ขอบคุณอาจารย์อีกครั้งค่ะ และขอให้ผลบุญที่อาจารย์เสียสละตอบคำถามต่อผู้ที่มีความเดือดร้อนจงตอบแทนอาจารย์และครอบครัวทุกท่านค่ะ |