การที่นาย ก. ซื้อบ้านแต่ยังไม่โอนและสร้างบ้านอยู่ในที่ดินนั้น การซื้อขายที่ดินเมื่อไม่ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลเป็นการซื้อที่ดินตามกฎหมาย
กรณีโอนลอย คือ เซ็นใบมอบอำนาจลอยไว้เฉยๆ ยังไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ กรรมสิทธิ์ในที่ดินยังไม่โอนไปเป็นของผู้รับจำนอง กรรมสิทธิ์ในที่ดินยังเป็นของเจ้าของที่ดินเดิม (ผู้จำนอง) กรณีนี้ควรตรวจสอบโฉนดคู่ฉบับที่เก็บไว้ที่กรมที่ดินว่าปัจจุบันใครเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ผู้รับจำนองหรือเจ้าของที่ดินเดิม หากเป็นของเจ้าของที่ดินเดิม ไม่มีเหตุที่นาย ก. ต้องจ่ายดอกเบี้ยแทน หากไม่จ่ายต้องออกจากที่ดิน
การโอนลอย ชาวบ้านชอบทำกันเสมอ คือ เซ็นหนังสือมอบอำนาจไว้เฉยๆ โดยไม่กรอกข้อความและมอบโฉนดพร้อมกับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านที่เซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้องให้ผู้รับจำนองยึดถือไว้ ซึ่งหากผู้รับจำนองไม่ซื่อ นำที่ดินไปขายเลยก็เคยมีมาแล้ว การโอนลอยไม่มีผลใด ๆ ทางกฎหมาย หากผู้รับโอนลอย (รับโฉนด,หนังสือมอบอำนาจฯลฯ) ไม่นำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
แม้สัญญาซื้อขายระหว่างนาย ก.กับเจ้าของที่ดินเดิมจะตกเป็นโมฆะเพราะไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่การที่นาย ก. ได้ปลูกสร้างบ้านพักอาศัยอยู่ในที่ดินตั้งแต่ปี 2523 หากเป็นการครอบครองโดยสงบเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันสิบปี ย่อมได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว แต่จะต้องร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้นาย ก.ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ เพื่อนำคำสั่งศาลไปแก้ไขทางทะเบียน มิใช่จะได้มาโดยอัตโนมัติเมื่อครอบครองติดต่อกันครบสิบปี