พ่อแม่ผมซื้อที่ดินมาแปลงหนึ่งที่บ้านเกิดของพ่อ ประมาณ 25 ไร่ มีโฉนดเรียบร้อย ในโฉนดเป็นชื่อแม่ ต่อมาแม่ผมตาย ประมาณปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการจัดการมรดกกับที่ดินแปลงนี้ พี่ชายของผมเป็นผู้เก็บโฉนดไว้ ต่อมา พ่อผม ไปบอกขายที่ดินบางส่วนกับชาวบ้านแถวนั้น คนแรก พ่อผมขายให้ 5 ไร่ ราคา 4 หม่ืนบาท คนที่ 2 ขาย 10 ไร่ ราคา 8 หม่ืนบาท แต่รับเงินมา 7 หมื่นก่อน แล้วบอกว่า ในวันโอน คนซื้อจะให้อีก 1 หมื่นบาท โดยมีการทำสัญญาซ้ือขายกัน (ทำกันเอง ไม่ได้ไปทำที่อำเภอ)
ต่อมาพี่ชาย และลูก ๆคนอื่น ๆ รู้เรื่อง (ลูก 5 คน) เห็นว่าเป็นการซื้อขายที่ไม่ถูกต้อง ลูก ๆ ก็ไม่ได้เห็นด้วย โฉนดก็ยังเป็นชื่อแม่อยู่ และทุกคนก็เข้าใจว่า พ่อไปเอาเงินเขามาแล้ว จึงทำดังนี้
1. ไปคุยกับผู้ซื้อรายแรก พร้อมเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า ที่ดินที่ซื้อไปไม่สามารถโอนให้ได้เพราะยังไม่มีการจัดการมรดก ใด ๆ ในที่แปลงนี้ ตกลงคืนเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยชดเชยไป ผู้ซื้อรายนี้ตกลง รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืน ก็จบกันไป แต่
2. ผู้ซื้อรายที่ 2 ไม่ยินยอม บอกว่าถ้าจะเอาคืนให้ไถ่คีนในราคาไร่ละ 30000 บาท เพราะเขาได้เข้าไปถากถางที่ และลงต้นยูคาลิปตัสไว้บ้างแล้ว อยากถามว่า เขาจะทำเช่นนั้นได้หรือไม่ คือ เรียกเงินไร่ละ และตอนนี้ส่ิงที่เขามีอยู่ในมือ คือสัญญาซื้อขายที่พ่อทำไว้กับเขา แต่พ่อไม่ได้ไปโอนที่ให้เขาตามที่ตกลงกับเขาไว้
พี่ชาย ตัวผมเอง และน้องชายได้เจรจาว่า ยินดีคืนเงินที่พ่อเอาของเขาไปพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย แล้วให้เขาหยุดการถากถางที่ในที่ดินผืนนี้ และออกไป แต่จะไม่ยอมเสียเงินให้เขาในราคาไร่ละ 30000 แน่ ถามว่า ผู้ซ้ือรายที่ 2 สามารถเรียกเงินค่าไถ่ที่ได้ไร่ละ 30000 จริงหรือไม่ และ ผมและพี่น้องควรทำอย่างไรต่อ
สามารถแจ้งความ ว่าผู้ซื้อรายที่่ 2 บุกรุกได้หรือไม่ ในขณะเดียวกัน ถ้าเขาจะแจ้งความในกรณีที่พ่อผมเอาเงินเขาไป พวกผมก็พร้อมที่จะคืนให้พร้อมดอกเบี้ย |