กรณีกู้ร่วม ทางสถาบันการเงินส่วนใหญ่ที่ให้กู้จะให้ผู้กู้ร่วมมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินด้วย เพื่อประโยชน์ในการบังคับคดีของสถาบันการเงิน ในกรณีของคุณก็เช่นเดียวกันก็จะต้องมีชื่อแฟนในโฉนดที่ดินร่วมกับคุณด้วย กรณีดังกล่าวอาจแก้ไขได้ด้วยการทำสัญญาระหว่างคุณกับแฟนว่า ทางคุณยืมชื่อมาเป็นผู้กู้ร่วมเท่านั้น ส่วนการผ่อนชำระหนี้ทางคุณเป็นผู้ผ่อนชำระเอง โฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวทางแฟนยอมรับว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณ แต่ก็นั่นแหละครับแม้จะทำสัญญากันไว้เขียนให้รัดกุมอย่างไรก็ตาม แต่เมื่อแฟนคุณมีชื่ออยู่ในโฉนดที่ดินร่วมกับคุณ ความเสี่ยงย่อมเกิดมีขึ้นตลอดเวลา  เพราะแฟนของคุณอาจจะอ้างสิทธิว่าเป็นของเขาครึ่งหนึ่ง โดยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับสัญญาที่ทำกันไว้ก็ได้ และเมื่อผ่อนชำระหนี้ครบหมด สถาบันการเงินไถ่ถอนจำนองให้แล้ว แฟนคุณอาจจะขายที่ดินเฉพาะส่วนของเขาให้กับบุคคลอื่นก็ได้ ไม่มีวิธีการใดที่จะป้องกันได้ดีกว่านี้ เพราะโฉนดที่ดินจดทะเบียนจำนอง จะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินเพื่อเป็นการป้องกันทางทะเบียน เช่น จดทะเบียนจำนองให้แฟนคุณจำนองที่ดินส่วนของเขากับคุณ เป็นการจำนองลำดับสอง สถาบันการเงินที่ให้กู้ย่อมไม่ยินยอม แม้จะจดทะเบียนสิทธิประเภทอื่น ๆ ก็จะต้องขอความยินยอมจากสถาบันการเงินผู้รับจำนองเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า จะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมใด ๆ เพื่อเป็นการป้องกันสิทธิของคุณในโฉนดแปลงดังกล่าวไม่ได้เลยเพราะสถาบันการเงินจะไม่ให้ความยินยอม นอกจากทำสัญญากันไว้ตามที่กล่าวแล้วข้างต้น