1. กรณีนี้เข้าใจว่า คุณไปเซ็นสัญญาค้ำประกันหนี้เงินกู้และนำโฉนดที่ดินที่มีชื่อของสามีไปค้ำประกันเงินกู้โดยให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้เฉย ๆ คงไม่ได้จดทะเบียนจำนองเพราะหากจดทะเบียนจำนอง สามีจะต้องเป็นผู้ไปจดทะเบียนจำนองเอง เมื่อที่ดินแปลงที่ซื้อมาได้มาหลังจากจดทะเบียนสมรสแล้ว ที่ดินแปลงนี้จึงเป็นสินสมรส คุณมีส่วนเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ด้วยครึ่งหนึ่ง แม้ชื่อในโฉนดจะเป็นชื่อของสามีก็ตาม หากคุณผิดสัญญาค้ำประกันและผู้ให้กู้ฟ้องคุณ
หลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว ผู้ให้กู้มีสิทธิยึดที่ดินแปลงนี้ขายทอดตลาดได้ แต่จะมีสิทธิจะรับเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดเพียงส่วนของคุณเท่านั้น
2. ไม่มีใครรู้เห็นก็ไม่เป็นอะไร หากข้อความในสัญญานั้นถูกต้องตามที่เป็นจริง
3. กรณีคุณเสียชีวิตไปก่อนใช้หนี้ ผู้ให้กู้จะต้องฟ้องกองมรดกหรือทายาทโดยธรรมในฐานะผู้รับมรดก แต่อย่างไรก็ดี ทายาทรับผิดไม่เกินมรดกส่วนที่ตนเองได้รับมาเท่านั้น เมื่อผู้ให้กู้ชนะคดีแล้วก็จะดำเนินการตามข้อ 1. วรรคสอง