คำกล่าวนำสมุดเยี่ยมชม
คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สมุดเยี่ยมชม
เจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วแต่มีบุตร 5 คน ก่อนตายบอกยกที่ดินให้กับ คุณน้า และคุณแม่ของดิฉัน คนละครึ่ง ครึ่งหนึงมีบ้าน อยู่บนที่ อีกครึ่ง เป็นที่เปล่าแต่คุณแม่ได้ปลูกมังคุดไว้เต็มพื้นที่มาสิบปีแล้ว และคุณแม่บอกยกให้ดิฉัน ญาติคนอื่นรับรู้และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เพราะรับรู้อยู่แล้ว (แต่ญาติแต่ละคนจะอยู่คนละจังหวัดกัน) -อยากถามว่าถ้าดิฉันและคุณน้าอีกคนต้องการรับโอนมรดก จะต้องทำอย่างไรบ้าง -ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
|
| |
การยื่นเรื่องขอรับมรดกต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดิน จะต้องมีเอกสารหลักฐานครบถ้วน เช่น ใบมรณะบัตรของคุณปู่ คุณย่า หรือหากไม่มีก็จะต้องไปคัดหนังสือรับรองการตาย ใบทะเบียนสมรส ใบมรณะบัตรของคุณพ่อ สำเนาบัตรประจำตัวประชา่ชนและสำเนาทะเบียนบ้านของทายาทที่มีสิทธิรับมรดกทุกคน โฉนดที่ดิน และทายาทที่มีสิทธิรับมรดกทุกคนจะต้องไปที่สำนักงานที่ดนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ดินสอบสวนและเซ็นชื่อสละมรดกด้วย เพื่อให้มรดกตกทอดมาถึงคุณและคุณน้า (น้องของคุณพ่อ) ซึ่งหากเอกสารไม่ครบถ้วนเจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ไปยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ตั้งคุณเป็นผู้จัดการมรดกซึ่งเป็นวิธีที่นิยมกันมาก
ผมจึงอยากแนะนำให้คุณยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ตั้งคุณเป็นผู้จัดการมรดกจะสะดวกกว่า ปัจจุบันที่สำนักงานอัยการในแต่ละจังหวัด จะมีสำนักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายอยู่ ซึ่งจะช่วยดำเนินการให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ระยะเวลาในการดำเนินการก็ไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะยื่นเรื่องกับเจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่จะประกาศคำขอรับมรดก 30 วันก่อนจดทะเบียนโอนมรดก แต่หากยื่นต่อศาล ๆ จะประกาศหนังสือพิมพ์และนัดไต่สวน ระยะเวลาประมาณ 45 วันก็จะได้คำสั่งศาล
|
โดยคุณ วัชรพล วัชรตระกูล [ 2013-01-10 ] ตอบ 855 |
|
|
คำเตือนเกี่ยวกับการใช้สมุดเยี่ยมชม