สำนักงานวัชรธรรมทนายความและธุรกิจที่ดิน กฏหมายที่ดิน,กฏหมายอาคารชุด

       

   สำนักงานวัชรธรรมทนายความและธุรกิจที่ดิน  

สำนักงานวัชรธรรมทนายความฯ ยินดีให้บริการท่านด้วยประสบการณ์ในวิชาชีพ ให้คำปรึกษาทำโครงการบ้านจัดสรร คอนโด ขาย สร้าง โอน ครบวงจร                                                                                                                                                                                                                                                                    
 

   

    





 สถิติวันนี้ 68 คน
 สถิติเมื่อวาน 76 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
2533 คน
29324 คน
2740852 คน
เริ่มเมื่อ 2008-11-20


คำกล่าวนำสมุดเยี่ยมชม
คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สมุดเยี่ยมชม


ต่อจากกระทู้87
หากข้อเท็จจริงในสำนวน ฟังได้ว่าผู้ขาย(เจ้าขอมเดิม) ครอบครองที่พิพาท(ส่วน10 ไร่) มาก่อนนาย ก   แต่นาย ก ต่อสู้ว่าตนมีสิทธิครอบครองก่อนหรือดีกว่า ผู้ซื้อ   จึงถือว่านาย ก ไม่มีเจตนาหรือขาดเจตนาบุกกรุกและทำให้เสียทรัพย์  เพียงแต่เป็นการโต้แย้งสิทธิครอบครองโดยเข้าไปปลูกพืชล้มลุกในที่พิพาท 10 ไร่ เท่านั้น(ไม่มีทรัพย์สินอะไรเสียหาย)       ผู้ซื้อไม่มีสิทธิแจ้งดำเนินคดีฐานบุกรุกทำให้เสียทรพย์  เพราะผู้ซื้อก็ไม่มีกรรมสิทธิ์เช่นกัน    นาย ก อ้างเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ซื้อชอบที่จะนำเรื่องไปฟ้องต่อศาลเพื่อให้ขับไล่เท่านั้น    ดังนี้ ข้ออ้างของนาย ก  ฟ้งขึ้นหรือไม่      อย่างไร    และขอบขอบคุณล่วงหน้ากับคำตอบครับ
โดย บุคคลทั่ว่ไป IP: xxx [ 2009-07-05 ]

คำตอบจาก Webmaster

ไม่ทราบว่า ที่ดิพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า หรือที่ดินมีโฉนดเนื่องจากมีผลกับคำตอบที่จะตอบต่อไป หากเป็นที่ดินมือเปล่า คงจะต้องพิจารณาว่าใครกันแน่ที่มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทระหว่างผู้ขายกับ นาย ก. หากผู้ขายมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทและขายที่ดินโดยการส่งมอบการครอบครองที่ดินให้กับผู้ซื้อ กรณีที่ นาย ก. จะต่อสู้ว่าตนมีสิทธิครอบครองดีกว่าผู้ซื้อย่อมไม่เกิดขึ้น การที่นาย ก. เข้าไปปลูกพืชล้มรุก จึงเป็นการเข้าไปแย่งการครอบครองที่ดินของผู้ซื้อ น่าจะมีเจตนาบุกรุก หากผู้ซื้อครอบครองที่ดินต่อเนื่องมาจากผู้ขายเดิม ซึ่งมีสิทธิดีกว่านายก. ผู้ซื้อย่อมตกอยู่ในฐานะผู้ถูกโต้แย้งสิทธิ ชอบที่จะฟ้องขับไล่นาย ก. ให้ออกไปจากที่ดินได้ ข้ออ้างที่นายก. อ้างว่า ผู้ซื้อชอบที่จะนำเรื่องไปฟ้องต่อศาลเพื่อให้ขับไล่เท่านั้น ฟังไม่ขึ้น เพราะหากไม่ได้รับความเสียหายจริง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องเสียเงินจ้างทนายให้ดำเนินคดี ปัญหาจึงน่าจะอยู่ที่นาย ก. มากกว่าว่าได้ทำให้ผู้ซื้อเสียหายจริงหรือไม่ (ตอบตามข้อเท็จจริงที่ถาม)

โดยคุณ วัชรพล ส่งเมล์ถึง วัชรพล [ 2009-07-05 ] ตอบ 93
คำเตือนเกี่ยวกับการใช้สมุดเยี่ยมชม


Copyright (c) 2008 by Vatchara Thamma Land Law Office Company Limited.