ตามกฎหมายจัดสรร เมื่อผู้จัดสรรแจ้งให้ผู้ซื้อจัดตั้งนิติบุคคลจัดสรรแล้ว หากผู้ซื้อไม่สามารถจะประชุมกันลงมติให้จัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรได้ ผู้จัดสรรจะต้อง
(1) ดำเนินการยื่นเรื่องขออนุมัติต่อคณะกรรมการจัดสรรที่ดินว่า จะดูแลรักษาสาธารณูปโภคอย่างไร จะจัดเก็บค่าใช้จ่ายจากลูกบ้านอย่างไร
(2) ในกรณีที่คณะกรรมการฯ ไม่อนุมัติ ผู้จัดสรรจะต้องขออนุมัติโอนที่ดินแปลงสาธารณูปโภคให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ได้
โดยจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้นเรียงลำดับไป การที่แจ้งลูกบ้านว่า หากไม่มีการจัดตั้งนิติบุคคลจะโอนเป็นสาธารณูปโภคให้กับหน่วยงานของรัฐ จึงเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แต่การจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรได้ ก็ดีแล้วครับ เพราะหากยกเป็นถนนสาธารณะประโยชน์แล้ว คนที่ไม่อยู่ในโครงการจัดสรรก็มีสิทธิที่จะเข้ามาใช้ถนนในโครงการได้ ทำให้ขาดความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวไป
เมื่อจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรแล้ว หากผู้จัดสรรยังไม่สามารถโอนสาธารณูปโภคให้กับนิติฯ ได้ หน้าที่ในการดูแลรักษาสาธารณูปโภคก็ยังคงอยู่กับผู้จัดสรรที่ดิน หากมีเด็กตกท่อระบายน้ำเสียชีวิต ผู้จัดสรรที่ดินยังคงต้องรับผิดชอบอยู่
ปกติ ในการประชุมจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ที่ประชุมจะต้องพิจารณาอนุมัติข้อบังคับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรด้วย ซึ่งในข้อบังคับฯ จะต้องระบุว่า จะจัดเก็บค่าส่วนกลางจากลูกบ้านอย่างไร คณะกรรมการฯ ไม่มีอำนาจที่จะขึ้นค่าส่วนกลางได้
ต่อกรณีที่ถาม การที่ผู้จัดสรรที่ดินปกปิดข้อมูล ไม่เปิดเผยข้อมูลที่ควรเปิดเผย แต่กลับเร่งรัดให้มีการตั้งนิติบุคคลจัดสรรฯ นั้น เห็นว่า ตามกฎหมายจัดสรร การจะจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรได้จะต้องมีลูกบ้านมาประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนแปลงย่อยในโครงการจัดสรร เมื่อลูกบ้านมาประชุมเกินครึ่งหนึ่งของจำนวนแปลงย่อยในโครงการและลงมติให้จัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรแล้ว จึงจะนำมตินั้นไปจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรได้ เมื่อขั้นตอนตามกฎหมายเป็นเช่นนี้จะเห็นว่า แม้ผู้จัดสรรที่ดินจะปกปิดข้อมูลอย่างไรก็ตาม หากลูกบ้านเสียงส่วนใหญ่ลงมติ ให้จัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรแล้ว นิติฯ ก็เกิดขึ้นได้ ในทางกลับกัน แม้ผู้จัดสรรจะเปิดเผยข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่ถ้าลูกบ้านเสียงส่วนใหญ่ลงมติไม่จัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรแล้ว นิติบุคคลฯ ก็เกิดขึ้นไม่ได้ จะเห็นได้ว่า การจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรจะจัดตั้งได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมใหญ่ของลูกบ้าน ผู้จัดสรรที่ดินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดทั้งสิ้น
เมื่อจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรแล้ว ผู้จัดสรรจะต้องโอนเงินให้กับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 7 ของค่าจัดทำสาธารณูปโภคในโครงการจัดสรร ซึ่งจะเท่ากับยอดเงินค้ำประกันการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคในโครงการนั่นเอง ซึ่งหากผู้จัดสรรไม่โอนเงินให้นิติฯ ๆ ก็สามารถใช้สิทธิทางศาลฟ้องบังคับได้
การเจรจาระหว่างคณะกรรมการนิติฯ และผู้จัดสรรไม่ได้รับการตอบสนองและบ่ายเบี่ยงนั้น เห็นว่า ควรมีที่ปรึกษาในการดำเนินการเพื่อที่คณะกรรมการฯ จะได้เดินในแนวทางที่สอดคล้องกับกฎหมาย ซึ่งอาจจะปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่ดินในเขตพื้นที่ได้